ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะครูชำนาญการ คือ แก้ไขปัญหา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาผู้เรียนด้านทักษะการอ่านจับใจความ (Reading Comprehension) โดยใช้การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญด้วยกลวิธีการสอนอ่านแบบ MIA ร่วมกับกิจกรรมกลุ่มและการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับการริเริ่มพัฒนาในรายวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2/2566 และ ภาคเรียนที่ 1/2567
1. สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้
จากการประชุมค้นหาปัญหา หาสาเหตุ และแนวทางพัฒนาผู้เรียนในกิจกรรม PLC ของผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จากผลการเรียนรู้ในรายวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1/2565 ที่ผ่านมา เมื่อพิจารณาข้อมูลผลการทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน และแบบทดสอบทักษะการอ่านจับใจความ(Reading Comprehension) ตาม มาตรฐานตัวชี้วัด สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐาน
ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล มาตรฐาน ม. 1/3 เลือก/ระบุประโยคและข้อความให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียง (non-text information) ที่อ่าน และมาตรฐาน ม. 1/4 ระบุหัวข้อเรื่อง (topic) ใจความสำคัญ (main idea) และตอบคำถามจากการฟังและอ่านบทสนทนานิทาน และเรื่องสั้น ของผู้เรียนกลุ่มเป้าหมายนี้ พบว่าผู้เรียนส่วนใหญ่มากกว่าร้อยละ 70 ของผู้เรียนกลุ่มเป้าหมาย มีความบกพร่องด้านการอ่านจับใจความ ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ ตามสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร รายวิชาภาษาอังกฤษของผู้เรียนกลุ่มเป้าหมายต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด ซึ่งเกิดจากสาเหตุหลายประการ สาเหตุหลักที่สมาชิกในทีม PLC ได้ร่วมระดมความคิดเห็นและได้ลงข้อสรุปจากสมาชิกครูที่ร่วมกิจกรรมประชุมทีม PLC ว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้เรียนไม่สามารถอ่านจับใจความได้ คือ การขาดความรู้เรื่องคำศัพท์ ขาดการฝึกฝนจนเกิดทักษะและ ความเข้าใจในการอ่านจับใจความ ครูผู้สอนได้ร่วมระดมความคิดเห็นกับสมาชิกครูในทีม PLC และได้สรุปแนวทางพัฒนาปัญหาผู้เรียนโดยการริเริ่มพัฒนา รูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยกลวิธีการสอนอ่านจับใจความ(Reading Comprehension) แบบ MIA (Murdoch Integrated Approach) และการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และผลิตสื่อการเรียนรู้แบบอิเล็กส์ทรอนิกส์ ได้แก่เว็บไซต์แหล่งเรียนรู้ เกมแบบอินตอร์แอคทีฟ และใบงานออนไลน์ เพื่อพัฒนาผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในรายวิชาภาษาอังกฤษ ภาคเรียนที่ 2/2566 และภาคเรียนที่ 1/2567 ให้มีพัฒนาการด้านการอ่านจับใจความสูงขึ้น
วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
6.สมาชิกในทีม PLC ร่วมประชุมสะท้อนผลการสังเกตการเรียนรู้ของผู้เรียนและเสนอแนวทางปรับปรุงแก้ไขแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาปัญหาผู้เรียนครั้งถัดไป
7.สมาชิกในทีม PLC ร่วมประชุมถอดบทเรียนและนวัตกรรมที่ใช้พัฒนาผู้เรียนในปัญหานี้
สื่อมัลติมีเดียที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในการจัดการเรียนรู้ Reading Comprehension
3.ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
ตัวชี้วัดเชิงปริมาณมีทั้งหมด 2 ตัวชี้วัด ดังนี้
3.1.1 จำนวนผู้เรียนที่มีส่วนร่วมในเรียนด้วยการรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยใช้สื่อมัลติมีเดียร่วมกับแบบฝึกทักษะและกิจกรรมการเรียนรู้การอ่านออกเสียงคำภาษาอังกฤษแบบโฟนิกส์ (Phonics Method) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของผู้เรียนกลุ่มเป้าหมาย
ผลลัพธ์การพัฒนา ผู้เรียนที่มีส่วนร่วมในการใช้ชุดกิจกรรม และแบบฝึกหัด สื่อบัตรคำศัพท์แบบอิเล็กทรอนิกส์ คิดเป็นร้อยละ 100 ของผู้เรียนกลุ่มเป้าหมาย 40 คน
3.1.2 จำนวนผู้เรียนที่มีการพัฒนาด้านการอ่านออกเสียงคำภาษาอังกฤษสูงขึ้น จากการเรียนโดยการใช้สื่อมัลติมีเดียร่วมกับแบบฝึกทักษะและกิจกรรมการเรียนรู้การอ่านออกเสียงคำภาษาอังกฤษแบบโฟนิกส์ (Phonics Method) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของผู้เรียนกลุ่มเป้าหมาย
ผลลัพธ์การพัฒนา จำนวนผู้เรียนที่มีการพัฒนาด้านการอ่านออกเสียงคำภาษาอังกฤษสูงขึ้น จากการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยใช้สื่อมัลติมีเดียร่วมกับแบบฝึกทักษะและกิจกรรมการเรียนรู้การอ่านออกเสียงคำภาษาอังกฤษแบบโฟนิกส์ (Phonics Method) จำนวน 33 คน คิดเป็นร้อยละ 82.5 ของผู้เรียนกลุ่มเป้าหมาย
3.1 เชิงปริมาณ
ตัวชี้วัดเชิงปริมาณมีทั้งหมด 2 ตัวชี้วัด ดังนี้
3.1.1 จำนวนผู้เรียนที่มีส่วนร่วมในเรียนด้วยการรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยใช้สื่อมัลติมีเดียร่วมกับแบบฝึกทักษะและกิจกรรมการเรียนรู้การอ่านออกเสียงคำภาษาอังกฤษแบบโฟนิกส์ (Phonics Method) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของผู้เรียนกลุ่มเป้าหมาย
ผลลัพธ์การพัฒนา ผู้เรียนที่มีส่วนร่วมในการใช้ชุดกิจกรรม และแบบฝึกหัด สื่อบัตรคำศัพท์แบบอิเล็กทรอนิกส์ คิดเป็นร้อยละ 100 ของผู้เรียนกลุ่มเป้าหมาย 34 คน
3.1.2 จำนวนผู้เรียนที่มีการพัฒนาด้านการอ่านออกเสียงคำภาษาอังกฤษสูงขึ้น จากการเรียนโดยการใช้สื่อมัลติมีเดียร่วมกับแบบฝึกทักษะและกิจกรรมการเรียนรู้การอ่านออกเสียงคำภาษาอังกฤษแบบโฟนิกส์ (Phonics Method) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของผู้เรียนกลุ่มเป้าหมาย
ผลลัพธ์การพัฒนา จำนวนผู้เรียนที่มีการพัฒนาด้านการอ่านออกเสียงคำภาษาอังกฤษสูงขึ้น ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด จากการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยใช้สื่อมัลติมีเดียร่วมกับแบบฝึกทักษะและกิจกรรมการเรียนรู้การอ่านออกเสียงคำภาษาอังกฤษแบบโฟนิกส์ (Phonics Method) จำนวน 27 คน คิดเป็นร้อยละ 79.4 ของผู้เรียนกลุ่มเป้าหมาย
3.2 เชิงคุณภาพ
ตัวชี้วัดเชิงคุณภาพมีทั้งหมด 2 ตัวชี้วัด ดังนี้
3.2.1 ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยใช้สื่อมัลติมีเดียร่วมกับแบบฝึกทักษะและกิจกรรมการเรียนรู้การอ่านออกเสียงคำภาษาอังกฤษแบบโฟนิกส์ (Phonics Method) เพื่อแก้ปัญหาด้านการอ่านออกเสียงคำของผู้เรียน ที่ ค่าเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 4.00 ของระดับความพึงพอใจ 5 ระดับ
ผลลัพธ์การพัฒนา ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยใช้สื่อมัลติมีเดียร่วมกับแบบฝึกทักษะและกิจกรรมการเรียนรู้การอ่านออกเสียงคำภาษาอังกฤษแบบโฟนิกส์ (Phonics Method) เพื่อแก้ปัญหาด้านการอ่านออกเสียงคำของผู้เรียน การเรียนโดยใช้สื่อมัลติมีเดียร่วมกับแบบฝึกทักษะและกิจกรรมการเรียนรู้การอ่านออกเสียงคำภาษาอังกฤษแบบโฟนิกส์ (Phonics Method) ค่าเฉลี่ย 4.51 ของระดับความพึงพอใจ 5 ระดับ
3.2 เชิงคุณภาพ
ตัวชี้วัดเชิงคุณภาพมีทั้งหมด 2 ตัวชี้วัด ดังนี้
3.2.1 ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยใช้สื่อมัลติมีเดียร่วมกับแบบฝึกทักษะและกิจกรรมการเรียนรู้การอ่านออกเสียงคำภาษาอังกฤษแบบโฟนิกส์ (Phonics Method) เพื่อแก้ปัญหาด้านการอ่านออกเสียงคำของผู้เรียน ที่ ค่าเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 4.00 ของระดับความพึงพอใจ 5 ระดับ
ผลลัพธ์การพัฒนา ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยใช้สื่อมัลติมีเดียร่วมกับแบบฝึกทักษะและกิจกรรมการเรียนรู้การอ่านออกเสียงคำภาษาอังกฤษแบบโฟนิกส์ (Phonics Method) เพื่อแก้ปัญหาด้านการอ่านออกเสียงคำของผู้เรียน การเรียนโดยใช้สื่อมัลติมีเดียร่วมกับแบบฝึกทักษะและกิจกรรมการเรียนรู้การอ่านออกเสียงคำภาษาอังกฤษแบบโฟนิกส์ (Phonics Method) ค่าเฉลี่ย 4.51 ของระดับความพึงพอใจ 5 ระดับ